“พอได้รางวัลเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว จึงมาคิดต่อกันว่าจะทำอะไรต่อดี แนวคิดของเรา คือ แนวคิดที่ค่อนข้างสวนทางกับคนใน จ.ภูเก็ต ที่นิยมประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แต่กลุ่มของเรากลับเลือกทำการเกษตร อย่างการเพาะเห็ด เนื่องจากมองแล้วว่า เมื่อมีธุรกิจการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหาร ซึ่งเมนูอาหารยอดฮิตคือ ต้มยำกุ้ง โดยส่วนผสมสำคัญคือ เห็ด ซึ่งตลาดภูเก็ตมีความต้องการมาก โดยในหนึ่งวัน จ.ภูเก็ดมีความต้องการใช้เห็ดในการประกอบอาหารมากกว่า 3-5 ตัน แต่กลับผลิตได้เพียง 30- 40% ของความต้องการใช้ ดังนั้น จุดนี้จึงเป็นช่องให้ชุมชนเราสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนได้ ” ประธานวิสาหกิจฯ กล่าว
โดยทางศูนย์ได้เริ่มพัฒนาศักยภาพการทำงานเพาะเห็ดและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเห็ด มีการร่วมระดมความคิดเห็น สรุปความต้องการของชุมชน ทั้งการให้คำปรึกษาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเพาะเห็ดแบบครบวงจร การผลิตหัวเชื้อที่มีคุณภาพ ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมหลักๆ คือ
ผลิตเห็ดจำหน่ายตลาดใกล้เคียง
แปรรูปเห็ดเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น แหนมเห็ด น้ำเห็ด เห็ดสวรรค์ ส่งขายทั่วไทย
ผลิตก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้า 4.เป็นจุดการเรียนรู้ของชุมชน
เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน
ส่งเสริมให้คนในชุมชนเพาะเห็ดทานเอง
ทำกิจกรรมพัฒนาและส่งเสริมอาชีพให้กับนักเรียนโรงเรียงต่างๆ
ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ จากกิจกรรมต่างๆ จนในปี 2557 ศูนย์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งแรกในจ.ภูเก็ต
และล่าสุดก็ยังได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตขั้นต้นจาก อย. ที่เรียกว่า ไพรมารี จีเอ็มพี อีกด้วย ซึ่งเขายังบอกว่า จริงๆ เดิมทีเราคิดว่าไม่จำเป็นต้องมี อย. ก็ได้ แต่หลังจากเราได้มีโอกาสไปประกวดในระดับประเทศ ผลที่กลับมาทำให้ชุมชนเป็นที่รู้จักระดับประเทศ และหากเราอยู่กับที่ ชุมชนก็จะไม่ไปไหน แต่หากเราอยากให้ชุมชนเรามีงานทำ อยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างแท้จริง เราก็ต้องพัฒนา และยังขยายตลาดได้ สร้างแรงงานภายในชุมชนได้
“เรามีศักยภาพมากขึ้น โดยสามารถเพาะเห็ด ทั้งเห็ดหูหนู เห็ดนางฟ้า เห็ดเป๋าฮื้อ โดยเฉพาะเห็ดนางฟ้าจะได้รับความนิยมมาก ซึ่งทางชุมชนสามารถทำเชื้อเห็ดที่มีคุณภาพได้ เริ่มจากใช้ดอกเห็ดที่ใหญ่ที่สุด และนำไปทำเชื้อเห็ดในห้องปฏิบัติการ โดยสามารถผลิตเป็นก้อนเห็ดที่มีคุณภาพ โดยเห็ด 1 ก้อนจะมีผลผลิตออกมาได้ประมาณ 300 กรัม และจะออกผลิตผลได้มากถึง 3-4 เดือน นอกจากก้อนเห็ดแล้ว เรายังผลิตน้ำเห็ดอีก ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของทางศูนย์ในการสร้างรายได้ให้ชุมชนทีเดียว ซึ่งปัจจุบันทางศูนย์อาจไม่ได้กำไรมากนัก แต่ก็สามารถอยู่ได้ โดยกำไรที่ได้มาตกเดือนละ 2-3 หมื่นบาทเฉพาะก้อนเห็ด แต่หากรวมผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจได้ประมาณ 80,000 -120,000 บาททีเดียว”
นอกจากในเรื่องการสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนให้แก่คนในชุมชนแล้ว สิ่งสำคัญที่ทำให้ศูนย์ฯได้รับรางวัลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง นายคณุตน์ บอกว่า ชุมชนยังได้องค์ความรู้ทั้งเรื่องความรัก ความสามัคคี และร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของชุมชน เพื่อเรียนรู้ตามในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยพวกเราก็เรียนรู้จากพระองค์ งานที่สำคัญ คือ ความร่วมมือ เราใช้ความร่วมมือมาทำให้ชุมชนนำพาสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชุมชน เกิดการพึ่งพาตัวเองได้ เลี้ยงตัวเองอย่างพอเพียงได้ จนได้รับรางวัลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงเมื่อปี 2554